Categories
News

Digital Marketing Tools ผู้ช่วยนักการตลาดยุคใหม่ ต้องมี!

Digital Marketing Tools ผู้ช่วยนักการตลาดยุคใหม่ ต้องมี! ในวันที่ Digital Marketing เข้ามามีบทบาทสำคัญต่อธุรกิจ และเต็มไปด้วยการแข่งขันที่ดุเดือด ทำให้ผู้ประกอบการ หรือแบรนด์สินค้าเองต้องงัดเอากลยุทธ์ทุกรูปแบบออกมาใช้เพื่อดึงดูดลูกค้าหน้าใหม่ และรักษาฐานลูกค้าเก่ารายเดิมไปพร้อมกัน ซึ่งทุกคนต่างรู้ดีว่าการที่ธุรกิจจะอยู่รอดได้นั้น ไม่ได้เกิดจากโชคเพียงอย่างเดียว แต่จำเป็นต้องอาศัยการวางแผน และวิเคราะห์ธุรกิจเพื่อให้รู้เท่าทันพฤติกรรมลูกค้าในยุคนี้

ขณะเดียวกันนักการตลาดจำเป็นต้องอาศัยเครื่องมือเทคโนโลยีต่าง ๆ เข้ามาเป็นผู้ช่วยมอนิเตอร์สิ่งที่เกิดขึ้นในโลกออนไลน์เพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูล แต่จะมีเครื่องมือเทคโนโลยีใดบ้างตอนนี้ที่น่าสนใจ วันนี้ Mandala Teams จะมาอัปเดตกันว่า Digital Marketing Tools อะไรในช่วงนี้ที่น่าสนใจ และจะช่วยธุรกิจของคุณดีขึ้นได้ในปีนี้

1. Facebook Analytics

เครื่องมือทางเลือกซึ่งอยู่ใน Facebook ผู้ใช้งานสามารถใช้ติดตาม และวิเคราะห์พฤติกรรมคนในโลกออนไลน์ได้ ซึ่งผลการวิเคราะห์จะออกมาในรูปแบบของแผนภูมิภาพทำให้ผู้ใช้เข้าใจพฤติกรรมคนในโลกออนไลน์มากขึ้น รวมถึงยังสามารถคาดการณ์วิธีการ และผลลัพธ์เพื่อทำโฆษณาครั้งต่อไปได้

ขณะเดียวกัน Facebook Analytics จะแสดงผลข้อมูลเกี่ยวกับจำนวนผู้ใช้งานที่เข้ามาใหม่ และรายเดิมว่ามีจำนวนเท่าไร และเขาคนนั้นเคยเข้ามาใช้งานแล้วหรือยัง รวมถึงยังระบุรายละเอียดกลุ่มเป้าหมายที่เข้ามาใช้งานได้ว่ามีอายุเท่าไหร่ เพศไหน สนใจเรื่องอะไร และช่วงเวลาไหนที่นักการตลาด หรือแบรนด์ควรให้ความสำคัญ

2. Facebook Ads Manager

เครื่องมือนี้สามารถใช้จัดการงานโฆษณาของ Facebook ได้แบบมีประสิทธิภาพ โดยภายใน Facebook Ads Manager สามารถใช้ในการวิเคราะห์โฆษณาแต่ละตัว เพื่อทำให้ผู้ใช้งานได้เห็นว่าโฆษณาตัวไหนที่มีประสิทธิภาพ หรือไม่มีประสิทธิภาพมากที่สุด

และประโยชน์จากการใช้ Facebook Ads Manager จะช่วยให้ธุรกิจ หรือแบรนด์นั้นประหยัดเงินทุน เนื่องจากผู้ใช้งานสามารถจำกัดงบโฆษณาไม่ให้เกินที่ตัวเองตั้งงบไว้ได้ และตอนนี้ Facebook Ads Manager ยังเปิดให้ทุกคนได้ใช้งานแบบฟรี ๆ ไม่เสียค่าใช้จ่าย

3. Google Ads

Google Ads หรือชื่อเต็ม คือ Google AdWords เครื่องมือเพื่อใช้โฆษณาบนออนไลน์มีไว้เพื่อติดตามแคมเปญการโฆษณาแบบ Real Time ซึ่ง Google Ads สามารถเก็บสถิติ หรืออัปเดตแคมเปญใหม่ ๆ ได้ต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้ประกอบการเหล่านั้นได้นำข้อมูลไปใช้ต่อยอดกระตุ้นยอดขาย หรือสร้างการรับรู้แบรนด์ในอนาคต

4. Google Analytics

เครื่องมือนี้มีไว้เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าในเชิงลึก รวมถึงวิเคราะห์ทิศทางทางการตลาด เพื่อให้แบรนด์สามารถนำข้อมูลไปใช้ Remarketing เพิ่มเติม ซึ่งจะช่วยเอื้อโอกาสการขายให้กับแบรนด์ หรือนักการตลาดอย่างดี

ขณะเดียวกันยังสามารถเข้าถึงข้อมูลลูกค้าที่เข้ามาเยี่ยมชมหน้าเว็บไซต์ได้อย่างดี โดยผู้ใช้งานจะทราบได้ว่าลูกค้าของคุณคือใคร เพศไหน อายุเท่าไหร่ ใช่กลุ่มเป้าหมายที่ตั้งไว้หรือไม่ เพราะการได้ข้อมูลของลูกมาสามารถทำให้แบรนด์กำหนดงบโฆษณาได้อย่างเหมาะสม และเกิดประสิทธิภาพ

5. Mandala AI

สุดท้ายเครื่องมือน้องใหม่ Mandala Analytics เครื่องมือ AI ที่แบรนด์ต่าง ๆ สามารถใช้งานได้ง่ายผ่าน Web Browser บนมือถือทั่วไปเพียงแค่มีอินเทอร์เน็ต ซึ่งเครื่องมือนี้ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยรวบรวมข้อมูลบนโลกออนไลน์ โดยเฉพาะช่องทาง Social Media เช่น Facebook, Instagram, YouTube, TikTok, Twitter, หรือเว็บฟอรั่มชื่อดังอย่าง Pantip เป็นต้น

อีกทั้งเครื่องมือนี้ยังทำหน้าที่ค้นหา และเก็บรวบรวมข้อมูลจากแพลตฟอร์มต่าง ๆ ได้ เมื่อไหร่ก็ตามที่ผู้บริโภคมีการกล่าวถึงแบรนด์ของผู้ใช้งาน หรือแบรนด์ของคู่แข่ง Mandala Analytics จะบอกข้อมูลนั้นให้ทราบทันที เพื่อให้ผู้ใช้งาน หรือแบรนด์นั้นได้นำข้อมูลมาวิเคราะห์ และนำไปวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาดออนไลน์ครั้งถัดไป

ปัจจุบัน “Mandala analytics” ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านกำลังคนโดยมีระบบ AI เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ทำงานแทนมนุษย์ ช่วยในการเก็บรวบรวมข้อมูล กลั่นกรองข้อมูล และวิเคราะห์ข้อมูล รวมถึงสังเคราะห์ข้อมูลในเชิงลึกที่น่าเชื่อถือ ที่สำคัญสามารถรองรับการใช้งานได้ทุกอุปกรณ์