Categories
News

ลักษณะของผิวไม่เรียบหลังดูดไขมัน

ลักษณะของผิวไม่เรียบหลังดูดไขมัน สภาพผิวหลังดูดไขมันของคนบางคน อาจจะมีลักษณะเป็นผิวขรุขระ ไม่เรียบเนียน หรือเราเรียกได้ว่าเป็นผิวส้ม, ผิวเปลือกส้ม หรือผิวเป็นคลื่นหลังดูดไขมันค่ะ ตรงนี้เกิดจากหลายปัจจัยร่วมกันนะคะ

ทั้งภายใต้ผิวอาจจะเกิดพังผืดหลังดูดไขมัน, เกิดก้อนแข็งหลังดูดไขมัน, เกิดก้อนไตหลังดูดไขมัน หรือเป็นหลุมเป็นบ่อ นูนบ้างยุบบ้าง ไม่เรียบเสมอกัน ทำให้เวลาสัมผัสจะรู้สึกได้ถึงก้อนแข็ง ๆ ใต้ผิวนั่นเองค่ะ

สาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาผิวไม่เรียบหลังดูดไขมัน
หมอจะแบ่งปัจจัยที่ก่อให้ผิวเป็นคลื่นหลังดูดไขมันเป็นสองปัจจัยใหญ่ ๆ นะคะ คือปัจจัยจากฝั่งแพทย์ (ความเชี่ยวชาญของแพทย์, เทคนิคเฉพาะตัวของแพทย์ รวมไปถึงเครื่องดูดไขมันที่เลือกใช้) และปัจจัยจากฝั่งคนไข้ (การดูแลตัวเองของคนไข้) ค่ะ

ปัจจัยฝั่งแพทย์
ความเชี่ยวชาญ และเทคนิคของแพทย์
ความเชี่ยวชาญของแพทย์ถือเป็นสิ่งสำคัญมากค่ะ แพทย์จะต้องรู้ข้อมูลเกี่ยวกับสรีระ สัดส่วน รวมไปถึงชั้นผิวหนังของคนไข้เป็นอย่างดีด้วยนะคะ เพื่อให้การรักษาเป็นไปอย่างถูกต้อง และได้-ผลลัพธ์ที่ดีเยี่ยมที่สุดค่ะ หากแพทย์ที่ดูดไขมันไม่มีความเชี่ยวชาญ หรือเป็นแพทย์ปลอม อาจทำให้เกิดการรักษาแบบผิด ๆ และทำให้ชีวิตของคนไข้ตกอยู่ในอันตรายได้

นอกจากนี้ เทคนิคในการดูดไขมันของแพทย์ก็สำคัญนะคะ ซึ่งจะต้องปรับเปลี่ยนไปตามคนไข้แต่ละคนค่ะ เพราะคนไข้แต่ละคนมีสรีระ สัดส่วนไม่เหมือนกัน หากแพทย์ดูดไขมันผิดวิธี อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงตามมาอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นก้อนแข็งหลังดูดไขมัน, ก้อนไตหลังดูดไขมัน, ผิวเปลือกส้ม, พังผืดหลังดูดไขมัน, เลือดออกเยอะ, หรือสัดส่วนไม่เท่ากันได้ค่ะ

หมอที่มีความเชี่ยวชาญจริง แต่ดูดไขมันมาแล้วเกิดผิวไม่เรียบเนียน ก็อาจเป็นไปได้ว่าแพทย์ทำโดยไม่ระวัง จึงทำให้ท่อดูดไขมันไปโดนชั้นไขมันตื้นที่อยู่ชิดกับผิวหนัง ทำให้มีการกินพื้นที่ผิวของเราไป นอกจากจะทำโดยไม่ระวังแล้ว ยังเกิดได้จากกรณีที่แพทย์ดูดไขมันเยอะมากจนเกินไปอีกด้วยนะคะ

หลักในการดูดไขมันที่ดี
หลักการดูดไขมันที่ถูกต้อง คือการดูดไขมันในปริมาณที่เหมาะสม โดยคำนึงจากตัวคนไข้เป็นหลัก หากคนไข้เป็นคนที่มีไขมันสะสมเยอะ ก็สามารถดูดได้เยอะ แต่ถ้าคนไข้มีไขมันสะสมน้อย แต่กล้ามเนื้อเยอะ เราก็ดูดไขมันได้น้อย หากแพทย์ฝืนดูดไขมันให้มากที่สุด โดยไม่คำนึงถึงความเหมาะสมของคนไข้ ก็อาจทำให้บริเวณที่ดูดไขมันเป็นหลุม-เป็นบ่อ, ผิวไม่เรียบ, ผิวเป็นคลื่น, ผิวเปลือกส้ม และอาจทำให้ผลลัพธ์ที่ออกมาไม่เป็นตามที่ต้องการ เช่นสัดส่วนไม่เท่ากัน ขาเบี้ยวได้ค่ะ

เครื่องดูดไขมัน
เครื่องดูดไขมันมีหลายแบบมาก ๆ เลยค่ะ ซึ่งเครื่องดูดไขมันกลุ่มพลังงานความร้อน อย่างเครื่อง Vaser Smooth 2.2 หรือเครื่อง Ultra Z นั้น จะมีพลังทำลายล้างเซลล์ไขมันสูง ซึ่งทำให้เกิดผลกระทบต่อเนื้อเยื่อข้างเคียงได้ง่าย และบางเคสอาจจะมีแผลที่ผิวหนังด้วย เนื่องจากแพทย์ไม่ชำนาญมากพอค่ะ

แถมเครื่องดูดไขมันกลุ่มพลังความร้อนบางเครื่อง ก็ไม่สามารถควบคุมความร้อนได้เลย ทำให้อาจมีความร้อนมากเกินไปได้ การตั้งค่าพลังงานที่สูงเกินไปของแพทย์ ก็อาจทำให้ผิวของเราเป็นคลื่นได้เช่นกันค่ะ เนื่องจากอุณหภูมิความร้อนที่สูงเกินไป อาจทำลายเซลล์ไขมันมากเกินจำเป็น ลึกไปจนถึงชั้นไขมันที่ติดกับผิวหนัง เมื่อชั้นไขมันถูกทำลายเป็นบางจุด ก็ทำให้ผิวไม่เสมอกัน จึงทำให้เกิดผิวขรุขระ เป็นผิวเปลือกส้ม หรือผิวเป็นคลื่นหลังดูดไขมันได้นั่นเอง

ปัจจัยฝั่งคนไข้
คนไข้หลายรายเกิดปัญหาหลังดูดไขมันผิวไม่เรียบ ซึ่งหลัก ๆ แล้วเกิดจากการไม่สวมชุดกระชับสัดส่วน ตามคำแนะนำของหมอนั่นเองค่ะ หมอย้ำเสมอว่าชุดกระชับเป็นขั้นตอนดูแลตัวเองที่สำคัญที่สุด ไม่เพียงแต่ทำให้สัดส่วนเราเล็กลงเข้าที่ไวแล้ว ยังช่วยลดปัญหาผิว และผลข้างเคียงอื่น ๆ ได้อีกด้วยนะคะ

อธิบายง่าย ๆ ว่า ก่อนดูดไขมันลักษณะชั้นผิวของคนเราจะเป็นแบบนี้ ผิวหนัง > ไขมัน > กล้ามเนื้อ เมื่อไขมันถูกดูดออกไป จึงทำให้เกิดช่องว่างระหว่างผิวหนังกับกล้ามเนื้อขึ้น เราต้องรีบปิดช่องว่างนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวเลื่อนหรือขยับตัวไปมา ถ้าผิวขยับตัวไปมาบ่อย ๆ ก็จะทำให้สัดส่วนเข้าที่ช้า, เห็นผลไม่ชัดเจน, ร่างกายฟื้นตัวช้า และผิวหนังของเราก็จะย้วย หย่อนคล้อย ไม่ตึงกระชับอย่างที่ควรค่ะ

การสวมชุดกระชับหลังดูดไขมันทันทีจะช่วยปิดช่องว่างนี้ และล็อคผิวของเราไม่ให้ขยับตัว ช่วยให้ผิวหนังและกล้ามเนื้อติดกันเร็วขึ้น และยังทำให้ร่างกายฟื้นฟูตัวเองดีขึ้นอีกด้วยค่ะ

วิธีแก้ปัญหาผิวเป็นคลื่นหลังดูดไขมัน
การแก้ปัญหาผิวเปลือกส้ม ผิวขรุขระ และผิวเป็นคลื่นหลังดูดไขมัน สามารถทำได้โดยการสวมชุดกระชับตามคำแนะนำของแพทย์, การนวดกระชับ RF และการยกกระชับผิวด้วย Thermatight (สำหรับเคสที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยมาก) ค่ะ

การสวมชุดกระชับหลังดูดไขมัน
ระยะเวลาในการสวมชุดกระชับหลังดูดไขมันจะขึ้นอยู่กับดุลพินิจของแพทย์ที่ทำการรักษา โดยแพทย์จะมีการประเมินจาก 2 ปัจจัยนี้เป็นหลัก นั่นก็คือสภาพผิวของคนไข้ เพื่อดูว่ามีความหย่อนคล้อยมากน้อยแค่ไหน และช่องว่างภายใต้ชั้นผิวหลังดูดไขมัน เพื่อดูว่ามีความหย่อนคล้อยมากน้อยแค่ไหน และประเมินปริมาณของไขมันที่ดูดออกไป จากนั้นแพทย์ก็จะประเมินให้ว่าคนไข้แต่ละเคสจะมีระยะเวลาในการสวมชุดกระชับนานเท่าไหร่

แต่โดยทั่วไปแล้ว ในช่วง 1 เดือนแรกหลังดูดไขมัน จะให้คนไข้สวมชุดกระชับวันละ 18-20 ชั่วโมง ซึ่งหลังจากใส่ไปแล้วประมาณ 4-6 ชั่วโมง แนะนำให้ปลดตะขอหรือถอดพักประมาณ 30 นาที – 1 ชั่วโมง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดแผลกดทับ ส่วนเดือนที่ 2 เป็นต้นไป แพทย์อาจลดระยะเวลาในการสวมชุดกระชับลงเหลือเพียง 12 ชั่วโมงต่อวัน ซึ่งคนไข้สามารถเลือกได้ว่าต้องการสวมในช่วงกลางวันหรือกลางคืน
ข้อดีของการใส่ชุดกระชับหลังดูดไขมัน
• ช่วยให้ผิวเรียบเนียน ไม่เป็นคลื่น
• ช่วยลดการเกิดก้อนแข็ง-ก้อนไต
• ช่วยลดโอกาสในการเกิดแผลเป็น
• ช่วยให้ผิวกระชับตัวขึ้น
• ช่วยให้สัดส่วนเข้าที่เร็วขึ้น
• ช่วยลดอาการบวมช้ำเขียว
• ช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็วขึ้น
• ช่วยให้กลับไปใช้ชีวิตตามปกติได้เร็วขึ้น